จุดประกายสุดยอดวิชา และสหายผู้เป็นตำนาน ของ อึ้งเซียะ

หลังจากอึ้งเซียงได้ยินต๊กโกวพูดดังนี้ ก็คล้ายดั่งมีประกายสายฟ้าแวบขึ้นในหัว ที่ผ่านมาเขาสะดุดใจกับปัญหาข้อนี้อยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่น้อยครั้งจะได้ประมือกับยอดฝีมือเนื่องเพราะเขาเป็นขุนนางมิใช่ชาวยุทธ อีกทั้งยังเชื่อมั่นในพลังภายในของตัวเองว่าเพียงพอต่อการสยบผู้คนแล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจต่อท่าร่างมากนัก คำพูดของต๊กโกวในครั้งนี้ ช่วยให้เขาเห็นทางสว่างได้เด่นชัด แม้ทั้งคู่จะพึ่งพบหน้ากันได้ไม่นาน แต่หลังจากประมือและพูดคุยกัน ในใจของทั้งสองก็คล้ายดั่งรู้จักสนิทสนมกับอีกฝ่ายมาหลายสิบปี ทั้งสองจึงตัดสินใจคบหาเป็นสหายกัน อึ้งเซียงเล่าเรื่องราวความเป็นมาที่ตนเองมีวรยุทธจากการเรียบเรียงตำราลัทธิเต๋าให้ฮ่องเต้ โดยไม่มีใครสอนสั่ง ทำให้ต๊กโกวยิ่งชื่นชมภูมิปัญญาที่หลักแหลมของอึ้งเซียงขึ้นไปอีก ต๊กโกวจึงบอกกับอึ้งเซียงว่า

"แม้ในใจของข้าจะแสวงหาความพ่ายแพ้เพราะไม่อาจพบพานคู่มือที่เปรียบติด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมสยบให้ผู้คนโดยง่าย หลังจากนี้ข้าจะลองคิดค้นกระบวนท่าที่จะทำลายพลังลมปราณของเจ้าดูบ้าง! เมื่อเจ้าคิดค้นกระบวนท่าที่ยอดเยี่ยมได้บ้างแล้ว เราสองจงมาประลองกันอีกครั้ง ดูสิว่าใครจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ฮะๆๆ"

อึ้งเซียงจึงตกลงรับคำ จากนั้นทั้งสองก็แยกจากกันในราตรีของวันที่4 เพราะอึ้งเซียงติดภาระต้องไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ เพื่อถวายรายงานผลการปราบปรามนิกายเม้งก่า แม้จะรู้สึกอาลัยที่ต้องจากกับผู้รู้ใจที่เพิ่งคบหาได้ไม่นาน แต่ในใจของต๊กโกวก็อิ่มเอิบยิ่งเนื่องเพราะพบพานผู้ที่จะมามอบความพ่ายแพ้ให้ตนได้แล้ว

แต่หารู้ไม่ว่านั้นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ 2 ยอดคนแห่งยุคจะได้เจอกัน